ชามไม้ไผ่ มักถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับอาหาร เนื่องจากปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติตามธรรมชาติของไม้ไผ่ และวิธีการผลิตและดูแลรักษาชามเหล่านี้ นี่คือเหตุผลที่ชามไม้ไผ่ขึ้นชื่อในเรื่องความปลอดภัยของอาหาร:
-
เป็นธรรมชาติและปราศจากสารเคมี: ไม้ไผ่เป็นวัสดุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีสารเคมีหรือสารพิษที่เป็นอันตราย ไม้ไผ่แตกต่างจากพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์บางชนิดที่อาจมีสารเติมแต่งที่น่าสงสัย โดยธรรมชาติแล้วไม้ไผ่มีความปลอดภัยเมื่อสัมผัสกับอาหารโดยตรง
-
การประมวลผลขั้นต่ำ: ชามไม้ไผ่คุณภาพสูงมักทำจากไม้ไผ่ที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไม่ผ่านการบำบัดทางเคมีหรือกระบวนการผลิตที่กว้างขวางซึ่งอาจทำให้เกิดสารปนเปื้อนได้
-
พื้นผิวเรียบ: เมื่อประดิษฐ์อย่างเหมาะสม ชามไม้ไผ่จะมีพื้นผิวเรียบและไม่มีรูพรุน ลักษณะนี้ทำให้ของเหลวหรือเศษอาหารมีโอกาสน้อยที่จะทะลุผ่านวัสดุ ลดความเสี่ยงของการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและการปนเปื้อนในอาหาร
-
ทนความร้อน: ไม้ไผ่มีคุณสมบัติทนความร้อนตามธรรมชาติ สามารถทนต่ออาหารร้อนและของเหลวได้โดยไม่บิดงอหรือปล่อยสารอันตราย ทำให้เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารได้หลากหลาย
-
ความแข็งแกร่งและความทนทาน: ชามไม้ไผ่ขึ้นชื่อในด้านความทนทานและความทนทาน มีโอกาสน้อยที่จะแตกหัก แตกร้าว หรือแตกเป็นชิ้นระหว่างการใช้งาน ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีสิ่งปนเปื้อนทางกายภาพเข้าไปในอาหาร
เพื่อรักษาความปลอดภัยของอาหารของชามไม้ไผ่:
-
ฝึกทำความสะอาดอย่างเหมาะสม: หลังการใช้งานทุกครั้ง ให้ล้างชามไม้ไผ่ด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกชนิดรุนแรงหรือแช่ไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อไม้ไผ่ได้
-
การบำรุงรักษาตามปกติ: ใช้น้ำมันแร่เกรดอาหารหรือครีมนวดผมจากไม้ไผ่เป็นระยะๆ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของไม้ไผ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ไผ่แห้งและเกิดรอยแตกร้าว
-
หลีกเลี่ยงสภาวะที่รุนแรง: ไม่แนะนำให้ใช้ชามไม้ไผ่กับไมโครเวฟหรือเครื่องล้างจาน อุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้ไม้ไผ่สัมผัสกับความร้อนและความชื้นสูง ซึ่งอาจนำไปสู่การเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป
-
เปลี่ยนเมื่อจำเป็น: หากคุณสังเกตเห็นการสึกหรอใดๆ เช่น รอยแตกหรือเศษเล็กเศษน้อย ก็ควรเปลี่ยนชามไม้ไผ่เพื่อความปลอดภัยของอาหาร